2554-08-30

BeerMansion


จิบเบียร์ไป.....นั่งตัวสั่นไปที่ "BeerMansion"
ร้านเบียร์ดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในบรรยากาศอันน่าสะพึงกลัวของ "Mansion7" บนถนนรัชดา
จริงๆตึกม่วงๆนี้ผมผ่านบ่อยครับ......ไม่ใช่เพราะไปใช้บริการอะไรแถวนั้นนะครับ 555
แต่เพราะบ้านแฟนผมอยู่ลาดพร้าว เลยทั้งนั่งรถ ทั้งขับรถผ่าน
มองจากภายนอกดูแปลกตาแถมน่ากลัว จนแอบสงสัยว่าข้างในมันมีอะไร?????

ความคิดตอนแรกไม่เชื่อและไม่รู้ว่าข้างในตึกน่ากลัวๆอันนี้จะมีร้านเบียร์ดีๆอยู่
แต่ต้องขอบคุณ Deal ดีๆของ Ensogo เป็นบัตรส่วนลดกว่า 50% ของร้านนี้ ......น่าเสียดาย
ซื้อน้อยไปครับ...แค่ใบเดียว เพราะไม่เคยซื้อเลยไม่รู้ว่าจะใช้ได้จริงหรือป่าว
(ครั้งหน้ามีอีกจะกดเต็ม Max !!!! )

เสาร์เย็นๆ เวลาลงตัว......หลังจากเคลียร์งานเรียบร้อย แฟนคนสวยโทรมาบอกว่า
วันนี้ให้ Visa ไป BeerMansion เกิดรอยยิ้มบนใบหน้าทันทีครับ
เพราะพลาดมาชิมเบียร์ที่นี่หลายครั้งทั้งอุปสรรคเรื่องงาน เรื่องเวลา แถมVisaไม่ผ่าน
......แต่วันนี้ท่านกงศุลไปด้วยต้องจัดเต็ม !!!!!

แต่บนความสุขย่อมมีความทุกมาเบียดบัง ระหว่างเดินทาง มันมาแล้วครับ ย่านแม่ !!!
เฆมดำก้อนใหญ่ลอยบกคลุมท้องฟ้าเมืองกรุง คิดในใจให้มันได้แบบนี้สิ !!!
ทุกครั้งที่จะดื่มเบียร์ ฝนต้องตกทุกครั้ง....แถมหนักเอาเรื่อง แต่แค่นี้หยุดผมไม่ได้ครับ
สุดท้ายพาตัวเองมาถึงหน้า "Mansion7" จนได้

แปลกใจครับ !?!?! ด้านในของที่นี่แตกต่างจากด้านนอกที่ดูน่ากลัว มืดๆ ม่วงๆ
พอเดินเข้ามาด้านใน............โล่ง !?!?!?!?!?! ผมถึงกับงง ????? ว่าแค่นี้เหรอวะ 555
ข้างในเป็นลานโล่งมีเครื่องเล่นเล็กๆ 5-6 อย่าง (ไม่รู้ว่าเล่นยัง...ไม่ได้สนใจ)
แล้วก็มุมน่ากลัวๆให้ถ่ายรูปกัน คนมาเดินบางตามากครับ
แต่ทั้งหมดไม่ใช่ประเด็น.....ประเด็นอยู่ที่ร้านนี้ "BeerMansion" ร้านม่วงๆ
ตรงมุมหน้าห้องน้ำพอดิบพอดี





เท่าทีเห็นร้านนี้น่าจะเป็นร้านที่ขายดีที่สุดใน "Mansion7" เพราะร้านอื่นดูเงียบๆ
ไม่ต้องกลัวหาไม่เจอ เพราะป้ายร้านชัดเจน แถมหน้าร้านมีป้ายโปรโมชั่นโดดเด่นเป็นสง่า
ผมเดินเข้าไปไม่รอช้า......เพราะใจนำไปก่อนแล้ว
บรรยากาศด้านในดีครับ แม้ร้านจะไม่ใหญ่แต่ตกแต่งสบายๆ ดูไม่อืดอัด
ผมไปถึงประมาณเกือบๆ 3 ทุ่ม คนยังไม่เยอะมาก เลือกนั่งตามใจชอบ

และแน่นอนสำหรับร้านเบียร์ในยุคนี้ต้องมีชั้นโชว์เบียร์ (ผมเรียกว่า "Beer wall")
ที่ตั้งโชว์ขวดและกระป๋องเบียร์ทั้งที่มีขายในร้าน และเบียร์แปลกๆ จากหลายที่ทั่วโลก
ที่สะดุดตาผมสุดๆน่าจะเป็น Asahi กระป๋อง 1 ลิตร พระเจ้า !!!!! กระป๋องเดียวจอด.......




อีกจุดที่ผมชอบคือตู้แช่เบียร์ขวดครับ มันอยู่ใกล้เราจนเดินไปดูได้เลย
เพราะร้านที่เคยไปส่วนใหญ่จะให้เราสั่งผ่านเมนู มันดูไม่เห็นภาพ แต่พอไปดูหน้าตู้ !!!!
(ตู้แช่เบียร์นะครับ...ไม่ใช่ตู้อย่างอื่น)
เอออ ก็น่ากินหลายขวดนะ มันดูเห็นภาพจับต้องได้.......


ในตู้ก็มีเบียร์น่าลองหลายขวดครับ.....ตอนยืนดูน้องบริกรก็เข้ามาดูแลเปิดไฟตู้
พร้อมคำแนะนำต่างๆ เยี่ยมครับ !!!! ใส่ใจลูกค้าดี
มองไปโต๊ะข้างๆเห็นน้องๆ นักศึกษาสาว 4 คน สั่งมาลองหลายอันเลย
สรุปนั่งขำ......เมาทั้งโต๊ะ 555


บรรยายบรรยากาศในร้านเรียบร้อย ก็เข้าเรื่องเลยครับ มาร้านเบียร์......ก็ต้องสั่งเบียร์
น้องเอาเมนูมาให้ ตื่นเต้นเลยครับ เพราะราคาของที่นี่ไม่แพง ไม่แรง ทั้งแบบสด
และแบบขวดrate ราคาอยู่ที่ร้อยกลางๆจนถึงสองร้อยต้นๆทั้งนั้น บรรยากาศแบบนี้
ราคาแบบนี้ ใส่ยับครับ !!!


แก้วแรกผมสั่งเป็น Erdinger Weissbier แบบสดๆกดจากถัง.....กลิ่นห๊อมมมมมม หอม
รสชาติก็มาตรฐานเลยครับ อร่ิอย นุ่ม



ส่วนแฟนผมอนุรักษ์นิยมครับ รักเดียวใจเดียว กับ Hoegaarden
ตัวนี้คงไม่ต้องแนะนำอะไรมากครับ เนื้อดี พิมพ์นิยม



ของดีอีกอย่างที่ไม่อยากให้เพื่อนๆพลาด กับแกล้มครับกับแกล้ม !!!!
ร้านนี้เค้ามีกับแกล้มหลากหลายดีครับ ทั้ง เฟรนฟราย , นักเก็ตไก่ , ถั่วพิตาชิโอ้ ,
เม็ดมะม่วง กับอีก 2-3 อย่างจำไม่ได้ครับ 555
แต่ทีประทับใจคือราคาที่มิตรภาพมากครับ 60 ทุกอย่างเลย....ผมเลยสั่ง นักเก็ตมากินเล่นๆ
พอกัดไปคำแรก โห้ๆๆๆๆ อร่อยกว่าร้านไก่ทอดดังๆอีก กรอบนอกนุ่มในจริงๆๆๆๆ ต้องไปลอง





ดื่มไปแป๊ปเดียว เหลือบไปเห็นมุม DJ มีชายหนุ่ม 2 กำลังก้มหน้าก้มตาปรับเครื่องเสียง
ตอนแรกนึกว่าจะเปิดแผ่น ที่ไหนได้ครับเป็น Acoustic เพราะๆ ที่ใช้กีต้า กับ กลองกล่องไม้
(ไม่รู้เค้าเรียกว่าไร...เห็นนั่งทับแล้วตีเป็นกลอง) ได้บรรยากาศสุดๆ จิบเบียร์ไป ฟังเพลงสบายๆ
อยากได้เพลงไหนก็ขอได้ด้วยนะครับ




จิบไปเกือบหมดแก้ว คนเริ่มทยอยเข้าร้านเรื่อยๆ หน้าบาร์เริ่มแน่น เกิดสงสัยขึ้นมา
เพราะเห็นร้านนี้มี 2 ชั้น ขอสำรวจหน่อยตามภาษาคนอยากรู้อยากเห็น...เดินขึ้นทันที
ด้านบนที่นี่ออกแบบเป็น 2 โซนครับ มีส่วนโซฟา อารมณ์แบบพาเพื่อนมา
ฉลองวันเกิดเล็กๆซัก 5-6 คน กับส่วนที่คล้ายหน้าบาร์แต่แต่สามารถมองลงมาเห็นข้างล่าง
สรุปมาเยอะนั่งโซฟา มาน้อยนั่งเคาเตอร์ มาซักพักนั่งด้วยกัน เพราะเมา 5555




เดินสำรวจจนเหนื่อย ลงมายก Erdinger ซะหมดแก้ว
ยังไงต่อดีหละ จะต่อเหมือนเดิมหรือลองของใหม่ ว่าแล้วก็เดินไปสำรวจตู้อีกครั้ง
สายตาเหลือบไปเห็น Memminger Weissbier หลบอยู่ตรงมุมตู้พอดี
เสร็จผมหละ......อยากลองมานานละ ไม่รอช้าเรียกผู้รู้มาถามทันที
ได้คำตอบว่า เบียร์ดี ดื่มง่าย หอมแบบผลไม้ๆ กล้วยๆ ...... จัดไป 1


ตัวนี้แอลกอล์ฮอลอยู่ที่ 5.3% กลิ่นหอมสไตล์ผลไม้ ความซ่าอยู่ในระดับกลางๆ
แต่ขวดนี้ฟองไม่ค่อยสวยครับ รักษารูปได้ไม่นานก็หายไปไม่รู้เป็นเพราะอะไร
รสชาติไม่ขม แต่ไม่หวานจนเลียน พอลองดื่มเทียบกับ Hoegaarden
ความหวานอ่อนกว่าเยอะเลย ใครที่ชอบสไตล์ Weissbier อันนี้เป็นอีกตัวที่ห้ามพลาด

ดื่มไปซักพักวงเล่นสดก็ลาไป เป็น DJ สาวสวยมารับช่วงต่อ เพราะเค้าช่วงเกือบ 5 ทุ่ม
อารมณ์เพลงคงต้องเร่งจังหวะขึ้นหน่อย.....ลูกค้าเริ่มทยอยเข้าจนน่าจะเต็มทั้ง 2 ชั้น
ส่วนผมก็เต็มเหมือนกันครับ สั่งคิดเงินพร้อมยื่นคูปอง Ensogo สบายๆไป
พอมาดูบิล โ้อ้ววววววว.....ร้านนี้ไม่มี service charge ราคาไหนราคานั้น
ใครอยากซื้อดื่มที่บ้าน ร้านนี้เป็นอีกทางเลือกที่ดีครับ

ครั้งหน้าจะเป็นร้านไหนรอติดตามกันนะครับ
หรือหากเพื่ือนๆมีร้านในดวงใจอยากให้ผมไป review ก็ยินดีนะครับ
สามารถโพสต์บอกกันได้ใน www.facebook.com/Beercyclopedia


ขอให้เพื่อนๆทุกคน "มีความสุขทุกครั้ง...ที่ดื่มเบียร์"
"BeerManiac"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น