2555-04-26

Reinheitsgebot : ว่ากันเรื่องของความ "บริสุทธิ์"



55555 มัวแต่สนุกกับการทำคลิปรีวิวเบียร์เอามาให้เพือนๆเป็นข้อมูลประกอบในการเลือกลองเลือกซื้อเบียร์ไม่ว่าจะลองที่ร้านหรือซื้อมาดื่มที่บ้านก็เอาเถอะครับ...ขอให้ได้ประโยชน์เป็นพอ
จนทำให้ห่างหายจากการเขียนบทความรีวิวร้านเบียร์ รือเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเบียร์ วันนี้มีเวลาได้ย้อนอ่านบทความเก่าๆก็คิดขึ้นมาได้ว่าน่าจะมีเพื่อนที่ชื่นชอบการอ่านบทความอยู่พอสมควร (ไม่รู้คิดไปเองหรือป่าว 555 ) ....เอาหละครับ วันนี้ขอกลับมาเอาใจเพื่อนๆที่เป็นนักอ่านกันหน่อย

กรุงเทพมหานคร ในขณะนี้กับอุณหภูมิระดับ 39 องศาปลายๆ เรียกว่า ร้อนจนจะบ้า !!!!! ผมเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงอยากจะเอาเบียร์เย็นๆ มากินโชว์ในออฟฟิตซะให้มันรู้กันไป เพราะเบียร์เย็นๆซักแก้วสองแก้ว สมองคงไหลลื่นขึ้นเยอะ ......แต่ก่อนที่จะยกขวดยกกระป๋องรินเบียร์ใส่แก้ว เพื่อนๆเคยสังเกตุกันมั้ยครับ ???? ว่าเบียร์นำเข้าหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะเบียร์จากประเทศเยอรมัน มักมีข้อความ
"German Purity Law 1516" หรือ" Reinheitsgebot 1516" อยู่บนฉลากไม่ว่าจุดใดก็จุดนึง บางยี่ห้อเอามาโชว์เก๋าอยู่ใกล้ๆโลโก้เลยด้วยซ้ำ....ผมหละโคตรสงสัยเลยครับว่า "ไอ้กฏความบริสุทธิ์แบบเยอรมัน" มันคืออะไร?? แล้วใครต้องบริสุทธิ์ คนต้มหรือคนดื่ม ??? แล้วถ้าเป็นแบบนั้นใครจะมาคอยนั่งตรวจว่าบริสุทธิ์จริงหรือป่าว 555 วุ่นวายไปกันใหญ่....หรือต้องปักตระไคร้พิสูจน์



German Purity Law หรือ Reinheitsgebot 
ออกเสียงแบบไทยๆว่า "ไรน์ไฮท์สเกอบอท" คือกฏควบคุมการผลิตเบียร์ของชาวเยอรมัน หรือถ้าจะให้ถูกสุดๆต้องบอกว่ามันคือกฏควบคุมการผลิตเบียร์ของแคว้นบาวาเรีย ซึ่งเดิมแคว้นนี้ตั้งอยู่บริเวณฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมันในยุคปัจจุบัน จนมีหลายคนเรียกกฏนี้ว่า "Bavaria Purity Law"

กฏนี้เริ่มต้นใช้เมื่อปี 1516 โดย Bavarian Duke Wilhelm IV เป็นผู้ร่างขึ้น เพื่อควบคุมการผลิตและการค้าขนมปังภายในแคว้นเพื่อสงวนวัตุดิบในการผลิตขนมปังให้ได้ตามส่วนผสมและคุณภาพที่ดี แต่ต่อมามีการนำเอาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตขนมปังไปใช้ในการผลิตเบียร์ จึงมีการนำเอากฏนี้มาควบคุมส่วนผสมในการผลิตเบียร์เช่นกัน


แต่เดิมส่วนผสมหลักของการผลิตเบียร์ของชาวบาวาเรียนั้นจะอนุญาตให้ใช้แค่ น้ำ , บาเลย์มอลท์ และ ฮ๊อป เท่านั้น หลายคนอาจสงสัยว่าแล้ว "ยีสต์" หละ "ยีสต์" หายไปไหน ??? ทำไมไม่มีอยู่ในส่วนผสมด้วย ??? ก็เพราะว่าในอดีตนั้นคนยังไม่รู้จัก "ยีสต์" จนกระทั้งปี ค.ศ. 1857 "ยีสต์" ถูกค้นพบโดย หลุย ปาสเตอร์ ผู้โ่ด่งดังนั้นเอง

หลังจากกฏนี้ถูกประกาศใช้ ก็ค่อยๆแพร่หลายออกไปอย่างช้าๆจนทั่วแคว้นบาวาเรีย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1871 มีการรวมดินแดนต่างๆเป็นประเทศเยอรมัน โดยแคว้นบาวาเรียตั้งเงื่อนไขในการรวมประเทศว่าต้องนำเอากฏนี้ไปใช้เป็นกฏหมายด้วย เนื่องจากผู้ผลิตจากแคว้นบาวาเรียกลัวการสูญเสียวัฒนธรรมการผลิตเบียร์ที่ถูกต้อง รวมถึงการเก็บภาษีเบียร์ โดยกฏหมายนี้ยังเป็นการกีดกันทางการค้าไปในตัวอีกด้วยทำให้เกิดความไม่พอใจจากผู้ผลิตเบียร์ที่อยู่นอกแคว้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีผู้ผลิตหลายรายใช้ส่วนผสมนอกตำราเช่น น้ำตาล , เชอรี่ , หรือแม้กระทั่งข้าวสาลี โดยหากผู้ผลิตไม่ใช้ส่วนผสมตามที่กำหนด ก็ถูกห้ามเรียกว่า "เบียร์"


เรื่องราวดำเนินมาถึงปี ค.ศ. 1988 ศาลแห่งยุโรบก็ตัดสินให้ยกเลิกกฏนี้ออกจากพระราชบัญญัตเบียร์แห่งประเทศเยอรมัน เพราะถือเป็นการกีดกันทางการค้าเบียร์นำเข้าจากต่างประเทศ เพราะหากไม่ตรงตามกฏการผลิตนี้ก็ไม่สามารถเรียกว่า "เบียร์" ได้เช่นกัน แต่สำหรับผู้ผลิตในประเทศยังคงยืดถือกฏนี้อยู่ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1990 มีการรวมประเทศเยอรมันตะวันตกและเยอรมันตะวันออกที่แยกกันไปในยุคสงครามโลกกลับมาเป็นชาติเดียวกันอีกครั้ง ก็เกิดสงครามเล็กๆขึ้นชื่อว่า "สงครามเบียร์บรันเดน" ("Brandenburg Beer War") เนื่องจากมีกรณีพิพาษของเบียร์จาก Neuzeller Kloster Brewery ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์ดำที่มีส่วนผสมของน้ำตาลทำให้โดนคำสั่งห้ามขาย แต่ภายหลังมีการอนุญาตให้จำหน่ายได้ภายใต้ชื่อ "Schwarzer Abt" ("Black Abbot") แต่ยังคงห้ามใช้คำว่า "เบียร์" ซึ่งถูกมองว่าเป็นการกีดกันทางการค้าทำให้ในที่สุดศาลปกครองแห่งเยอรมันมีคำสั่งให้กลับมาใช้คำว่า "เบียร์" ได้อีกครั้ง


ในปัจจุบันกฏ "German Purity Law 1516" หรือ" Reinheitsgegot 1516" ไม่มีการบังคับใช้อีกแล้วเนื่องจากผู้ผลิตในปัจจุบันมีการใช้ส่วนผสมที่นอกเหนือที่กำหนด แต่เบียร์ที่ผลิตก็สามารถขายส่งออกจนเป็นที่นิยมถูกปากนักดื่มไปทั่วทุกมุมโลก แต่ผู้ผลิตเบียร์สไตร์ "Lager" จากทั้งในประเทศเยอรมัน รวมไปถึงผู้ผลิตจากทั่วโลก ยังคงยืดถือและปฏิบัติตามกฏ "ความบริสุทธิ์" แบบดั่งเดิมในการผลิต และนำเอาจุดนี้เป็นตัวช่วยส่งเสริมในด้านการตลาด เพราะนักดื่มทั่วโลกยังคงมากหา "German Purity Law 1516" หรือ" Reinheitsgebot 1516" เพื่อตามสนองความมั่นใจว่าได้ดื่มเบียร์สูตรต้นตำหรับจากเยอรมันแท้ๆ

วันนี้ฝากเนื้อหาสาระดีๆไว้เท่านี้ก่อนนะครับ ครั้งหน้าจะมีเรื่องราวดีๆอะไรมาก็ค่อยติดตามกันนะครับ

ขอให้เพื่อนๆทุกคน "มีความสุขทุกครั้ง...ที่ดื่มเบียร์"
"Beer Maniac"













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น