2555-05-20

Einstein Cafe


ลั้นลา ลั้นลา เฮอา เฮฮา........ศุกร์แห่งชาติ !!!!
หลายคนรอคอยมาทั้งสัปดาห์ที่จะได้ดื่มเครื่องดื่มรสเลิศกับเพื่อนรู้ใจ.........มันช่างเยี่ยมจริงๆ
ค่ำคืนนี้ผมขอพาเพื่อนๆไปนั่งดื่มเบียร์เย็นๆในร้านเบียร์ที่มี Concept เท่ๆเก๋ๆไม่เหมือนใครกับร้านนี้ 

"Einstein Cafe"




"Einstein Cafe" อยู่ไม่ใกลไม่ไกลแค่ The Nine ถนนพระราม 9 ใครกลัวหาไม่เจอให้หันหน้าเข้าโครงการ
ร้านอยู่ชั้น 2 ทางซ้ายหาไม่ยากครับ ให้สังเกตุดีๆหน้าร้านจะมีเก้าอี้กับโต๊ะยาวๆอยู่หน้าร้าน
พอเราเดินผ่านจะพบน้อง PR 2 สาวยืนส่งเสียงสดใสคอยทักทายลูกค้าอย่างเป็นกันเอง


ร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนคือ Open-Air บริเวณหน้าร้านที่ให้บรรยากาศสบายๆ เหมือนนั่งอยู่ในสวนเล็กๆ 
กับด้านในที่ตกแต่งและใช้เฟอร์นิเจอร์แบบเรียบง่ายให้ความรู้สึกเหมือนนั่งกินข้าวบ้านเพื่อน
แต่ไฟสลั่วๆทำให้ได้บรรยากาศในการดื่มที่ดี.....ใครชอบบรรยากาศแบบไหนเลือกได้เลยครับ

อย่างที่ผมเกริ่นไปตั้งแต่แรก ร้านนี้จุดเด่นคือ Concept ไม่เหมือนใคร ที่นำเอานักวิทยาศาสตร์
ชื่อก้องโลก "Albert Einstein" ผู้คิดค้นสูตร E=mc2 หรือที่ชาวบ้านอย่างเรา
รู้จักกันว่าเป็น "สูตรระเบิดปรมาณู" นั้นเอง ทำให้การตกแต่งรวมถึงเมนูอาหารของร้านนี้ 
นำเอาความเป็นวิทยาศาสตร์มาใช้เป็นลูกเล่นหลายจุดครับ 


เริ่มกันที่เจ้ากำแพง "E=mc2" ที่ทางร้านใช้โคมไฟส่องสว่าง เหมาะกับสาวๆที่ชอบถ่ายภาพโพสต์ลง
Social Network รับรองมุมนี้แสงสวยแน่นอน ( ใครมาแล้วไม่ถ่ายโชว์เพื่อน......เหมือนมาไม่ถึง !! ) 
และส่วนตัวผมชอบสูตรที่ทางร้านขยายความออกมาเป็น " Einstein = meal x creativity2 "
เออ..............เท่ดี !!!! ชอบๆๆ


















ขยับมาอีกฝั่งทางร้านเลือกใช้โต๊ะเก้าอี้ไม้ดูเรียบง่ายแต่เน้นที่ความสบาย คล้ายๆนั่งทานข้าวบ้านเพื่อน 



เขยิบเข้าด้านในสุดจะพบกับตู้แช่เบียร์ขวดกว่า 20 ชนิดให้เราเลือกดื่มได้ตามสบาย แต่ถ้าใครไม่ถนัด
ดื่มเบียร์ทางร้านก็มีไวน์หลายชนิดให้ได้เลือกดื่มอีกด้วย


วันนี้เบียร์ที่ผมเลือกดื่มก็คือเจ้า "Orval" Trappist Beer ชื่อดังจากประเทศเบลเยี่ยม
ที่มาพร้อมกับแอลกอฮอล์ 6.9% ซึ่งผมเองเคยให้นิยามกลิ่นของเจ้านี้ไว้ว่าเหมือนกลิ่น "ตีน !!!!" 
555 อย่าตกใจกันนะครับ จริงๆกลิ่นและรสชาติของมันไม่ได้แย่แต่ประการใด เพียงแค่มีอยู่ครั้งนึง
ผมไปดื่มเบียร์ตัวนี้กับเพื่อน แว๊บแรกที่ดมกลิ่นมันทำให้รู้สึกแบบ "ตีนๆ" ซึ่งก็พูดออกมาทันที่ 
เลยกลายเป็นที่จดจำว่าเจ้า "Orval" ตัวนี้คือ เบียร์ "ตีน" !!! สำหรับผมไปโดยปริยาย แต่จริงๆเจ้ากลิ่น
แรงๆของเบียร์ตัวนี้เกิดจากการใช้ยีสต์ชนิดนึงที่ไม่เหมือนกับเบียร์ตัวอื่นๆ ทำให้ได้กลิ่นและรสชาติ
ที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัว.....ใครอยากรู้ว่าเป็นยังไงลองหาดื่มกันนะครับ


อาจารย์โก้ เพื่อนร่วมขบวนการในค่ำคืนนี้ของผมเลือกดื่ม "Erdinger Urweisse" ABV 5.2% 
Weizen Beer จากประเทศเยอรมัน ที่มาพร้อมกลิ่นกล้วยๆตามแบบฉบับของ Wheat Beer ใครที่เคยดื่ม
Erdinger Weissbier ที่มีขายใน Supermarket บ้านเรา เจ้าตัวนี้ทั้งกลิ่นและรสชาติคล้ายหรือเรียกว่า
เหมือนเลยก็ได้ว่าได้ครับแต่จะเด่นกว่าก็ตรง Body ที่แน่นกว่าเล็กน้อย ทำให้รู้สึกเต็มปากมากกว่าครับ


อาหารที่เราเลือกมาทานคู่กับเบียร์ในวันนี้ก็คือ "ไอน์-ฟรายต์" (ผมไม่ได้ด่าใครนะครับ 555)
มันทอดสูตรเฉพาะของทางร้านที่เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้ม 2 รสชาติ.....ส่วนตัวผมชอบอันสีส้ม
รสชาติคล้ายๆน้ำสลัดแบบ Thousand Island พอทานร่วมกับเจ้า "Orval" ยิ่งเข้ากันมากๆ........
ขอนอกเรื่องนิดนึง เวลาผมไปดื่มเบียร์ไม่ว่าจะร้านไหนเมนูผมมักสั่งเมนูมัันฝรั่งทอด
เพราะเมนูง่ายๆนี่หละครับ"ปราบเซียน" นักแหละ หลายร้านที่ใช้มันถุงๆแช่เย็นตาม supermarket
แบบนี้ "จบ" เลยครับ 


กลับเข้าเรื่องกันต่อ.....นอกจาก "ไอน์-ฟรายต์" แล้ว เมนูอื่นๆทางร้านก็เอา Concept แบบวิทยาศาสตร์ มาตั้งชื่อให้เก๋ๆอีกเช่น ปลาหมึกนิวตรอน , ไก่นิวเคลียร์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นความสนุกเล็กๆได้อีกแบบ


















เมนูร้านนี้ก็มีลูกเล่นเล็กๆ ตรงที่นำำเอาคนจากหลายๆอาชีพมาตั้งคำถามว่า "What is Beer ??? "
อ่านไปก็เพลินๆดีครับ....ผมยังอ่านไม่จบเลย มั่วแต่กิน "ตีน" อยู่


ที่น่าสนใจอีกจุดคือ นักดนตรี ที่เล่นดีร้องเพราะ ฟังสบายๆลื่นๆไปกับเบียร์ดีมากครับ 555
จริงๆไม่ใช่ใครเป็น "พี่ต้น" มือเบสจาก Groove Rider มิหน่าเล่นดี๊ดี !!!


น่าเสียดายครับที่นั่งซักพักผมต้องไปต่อ เพราะนัดเพื่อนๆไว้อีกร้าน.....ซึ่งแน่นอนว่าจะมีรีวิว
ตามมาในไม่ช้าแน่นอนครับ เพื่อนๆรอติดตามกันนะครับ

ขอให้เพื่อนๆ "มีความสุขทุกครั้ง........ที่ดื่มเบียยร์"
"BeerManiac"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น